เห็นว่ามีสุขแล้วผักตำนิลบ่อยากเบิ่ง เห็นว่ามีสุขแล้วบ่เหลียวแลพวกเพื่อน ในโลกนี้บ่ห่อนอยู่เดียวเป็น คันว่ามีผืนผ้าบ่หาแพรพาดบ่า | คันได้กินต่อนซิ้นปลากั้งบ่อยากเหลียว คันบ่สุขอยู่เรื่อยสิเหลียวหน้าเบิ่งไผ อยู่แต่คนเดียวดายบ่ห่อนเป็นเมืองบ้าน สินุ่งแต่ผ้าไปได้จั่งใด๋ |
คันแม่นผู้เฒ่าบ่เข้าวัดฟังธรรม เขาสินินทาท้วงติเตียนทั้งโลก เขาสิว่าเฒ่าแก่แดดบ่เหลียวเบิ่งทางตม เขาสิว่าเฒ่าแข้วว้ำบ่เหลียวเบิ่งทางธรรม | เขาสิกำดินพึกใส่โฮยนำหน้า เขาสิสับโขกเว้าคนเฒ่าบ่ดี เขาสิว่าเฒ่าแก่ลมบ่เหลียวเบิ่งทางหน้า เขาสิบ่ยำแยงนบท่อใยยองน้อย |
คนเฮานี้ ต้องเผิ่งอาศัยกัน คือดังปลาอาศัยน้ำ น้ำกะเผิ่งวังปลา
ปลาอาศัยวังเวิน จึ่งล่องลอยนาน้ำ ทามอาศัยห้วย งัวควยอาศัยแอก
ตาแฮกอาศัยไก่ต้ม จึงโดนตุ้มจากคอน คือดังคอนอาศัยไม้ นกใส่อาศัยโกน
คนกะอาศัยคน เผิ่งกันโดยด้าม คามอาศัยหม้อ หมอมออาศัยส่อง
ฆ้องอาศัยไม้ฆ้อน ตีต้องจึงค่อยดัง......สั่นแล้วพี่น้องเอ้ย
สามัคคีกันไว้ คือข้าวเหนียวนึ่งใหม่ อย่าได้เพแตกม้าง คือน้ำถืกข้าวเหนียว
สามัคคีกันไว้ คือฝนแสนห่า ตกลงมาจากฟ้า ไหลโฮมโห่งอยู่หนอง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น